Spread สเปรด เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในตลาดการเงิน ทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่ช่วยให้การซื้อขายเกิดขึ้นได้อย่างราบรื่น บทความนี้จะพาไป “เจาะลึก คำว่า Spread” กลไกที่สำคัญที่ขับเคลื่อนตลาด forex
สารบัญ : สเปรด Bid Ask คืออะไร
Spread คืออะไร
Spread สเปรด คือ ผลต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) ของสินทรัพย์ เปรียบเสมือนค่าธรรมเนียมที่ผู้ซื้อต้องจ่ายเพื่อแลกกับสินทรัพย์ที่ต้องการ
ประเภทของ Spread:
Fixed Spread: Spread คงที่ ไม่เปลี่ยนแปลง
Variable Spread: Spread แปรผัน ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องของตลาด
สเปรด ของแต่ละประเภทบัญชีก็ไม่เท่ากัน ควรเลือกตามความเหมาะสมกับกลยุทธ์การเทรดของเทรดเดอร์ ตัวอย่างของ สเปรด แต่ละประเภทบัญชีของโบรกเกอร์ AXI
ปัจจัยที่มีผลต่อ Spread:
สภาพคล่องของตลาด: ตลาดที่มีสภาพคล่องสูงจะมี Spread สเปรด แคบ
ประเภทของสินทรัพย์: สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงจะมี Spread สเปรด กว้าง
เวลา: Spread สเปรด มักกว้างในช่วงที่มีสภาพคล่องต่ำ
กลยุทธ์การซื้อขายกับ Spread ให้ได้ค่าสเปรดที่ต่ำ
- เลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread แคบ
- เทรดในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง
- ใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม
Spread กับกลยุทธ์การเทรด
- Scalping
- Day Trading
- Swing Trading
Bid กับ Ask: คืออะไร
Bid คือ ราคาสูงสุดที่ผู้ซื้อพร้อมจะจ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์
Ask คือ ราคาต่ำสุดที่ผู้ขายพร้อมจะขายสินทรัพย์
Bid และ Ask เปรียบเสมือน “กรอบราคา” ของสินทรัพย์
ตัวอย่าง:
ในตลาด Forex ราคา Bid ของ EUR/USD อาจอยู่ที่ 1.1230
ในตลาดหุ้น ราคา Bid ของหุ้น XYZ อาจอยู่ที่ 100 บาท
ส่วนต่างระหว่าง Bid และ Ask เรียกว่า “Spread“
Spread เปรียบเสมือนค่าธรรมเนียมที่ผู้ซื้อต้องจ่ายเพื่อแลกกับสินทรัพย์ที่ต้องการ
ปัจจัยที่มีผลต่อ Bid กับ Ask:
สภาพคล่องของตลาด: ตลาดที่มีสภาพคล่องสูงจะมี Bid/Ask แคบ
ประเภทของสินทรัพย์: สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงจะมี Bid/Ask กว้าง
เวลา: Bid/Ask มักกว้างในช่วงที่มีสภาพคล่องต่ำ
โบรกเกอร์ Forex
เอาชนะสเปรดได้อย่างไร
Spread เปรียบเสมือนด่านแรกที่นักเทรดทุกคนต้องเผชิญ
กลยุทธ์ แนะนำ
1. เลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread แคบ:
เปรียบเทียบ Spread สเปรด ของโบรกเกอร์ต่างๆ
เลือกโบรกเกอร์ที่เสนอ Spread สเปรด แคบสำหรับสินทรัพย์ที่ต้องการเทรด
2. เทรดในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง:
ตลาดที่มีสภาพคล่องสูงจะมี Spread แคบ
เทรดในช่วงที่มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก ไม่เทรดในช่วงที่ธนาคารหยุดทำการ
3. ใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม: เช่น
- กลยุทธ์ Scalping:
- กลยุทธ์ Day Trading:
- กลยุทธ์ Swing Trading:
4. เข้าใจผลกระทบของ Slippage:
สเปรดที่กว้างมีโอกาสเกิด Slippage ได้
5. ใช้ออเดอร์ Stop-Loss:
Stop-Loss ช่วยจำกัดความเสี่ยง
วาง Stop-Loss เหนือราคา Ask
6. ศึกษาและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ:
เข้าใจกลไกการทำงานของ Spread สเปรด
ฝึกฝนเทคนิคการเทรดที่หลากหลาย
ตัวอย่าง:
เทรด EUR/USD ในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง:
ใช้กลยุทธ์ Scalping กับ Spread แคบ:
ใช้ออเดอร์ Stop-Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง:
ศึกษาคลังระบบเทรดเพิ่มเติมได้ที่ คลังระบบเทรด
ศึกษาการใช้คำสั่ง Stop Loss ได้ที่ คำสั่ง Stop Loss(SL) และ Take Profit(TP)
Slippage คืออะไร?
Slippage คือ ความแตกต่างระหว่างราคาที่คาดหวังในการซื้อหรือขาย forex (ฟอเร็กซ์) หลักทรัพย์ หรือสินค้าอื่นๆ กับราคาที่ทำการซื้อหรือขายจริงๆ ที่เกิดขึ้นในตลาด
ตัวอย่าง:
คุณตั้งซื้อหุ้น XYZ ที่ราคา 100 บาท แต่ราคาตลาดจริงที่ซื้อได้คือ 101 บาท Slippage ในกรณีนี้คือ 1 บาท
คุณตั้งขาย EUR/USD ที่ราคา 1.1230 แต่ราคาตลาดจริงที่ขายได้คือ 1.1225 Slippage ในกรณีนี้คือ 5 pips
สาเหตุของ Slippage:
- สภาพคล่องของตลาด: ตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ Slippage มักมีค่าสูง
- ความผันผวนของราคา:
- ความเร็วของการเทรด:
- ประเภทของออเดอร์:
ผลกระทบของ Slippage:
- เพิ่มต้นทุนการซื้อขาย
- ลดผลกำไร
- เพิ่มความเสี่ยง
วิธีการลด Slippage
- เทรดในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง
- ใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม
- ใช้ออเดอร์ Limit แทน Market Order
- เลือกโบรกเกอร์ที่มี Slippage ต่ำ
สรุป
1. Spread สเปรด คืออะไร?
Spread สเปรด คือ ผลต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) ของสินทรัพย์ เปรียบเสมือนค่าธรรมเนียมที่ผู้ซื้อต้องจ่ายเพื่อแลกกับสินทรัพย์ที่ต้องการ
2. ประเภทของ Spread สเปรด:
Fixed Spread: Spread คงที่ ไม่เปลี่ยนแปลง
Variable Spread: Spread แปรผัน ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องของตลาด
3. ปัจจัยที่มีผลต่อ Spread สเปรด:
สภาพคล่องของตลาด: ตลาดที่มีสภาพคล่องสูงจะมี Spread สเปรด แคบ
ประเภทของสินทรัพย์: สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงจะมี Spread สเปรด กว้าง
4. กลยุทธ์การซื้อขายกับ Spread สเปรด:
เลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread แคบ:
เทรดในช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง:
ใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม:
5. Spread สเปรด กับกลยุทธ์การเทรด:
- Scalping:
- Day Trading:
- Swing Trading:
Bid กับ Ask: คืออะไร
- Bid คือ ราคาสูงสุดที่ผู้ซื้อพร้อมจะจ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์
- Ask คือ ราคาต่ำสุดที่ผู้ขายพร้อมจะขายสินทรัพย์
- Bid และ Ask เปรียบเสมือน “กรอบราคา” ของสินทรัพย์
บทความที่เกี่ยวข้อง
ผู้เขียน / Admin
Programmer web master
Win โปรแกรมเมอร์ผู้รักในการเทรด Forex เป็นชีวิตจิตใจ เข้าสู่วงการตลาด Forex ตั้งแต่ปี 2555 แสวงหาความสำเร็จ เพื่อเป็นผู้มีอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง จากแหล่งรายได้แบบ Passive income โดยการนำความรู้การเขียนโปรแกรมมาประยุกต์พัฒนา EA สร้างฟาร์ม EA Forex ขนาดใหญ่ ในการเทรดทำกำไรในตลาด Forex ให้มีรายได้ที่มั่นคงแบบมั่งคั่งและยั่งยืน....
” การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน “
ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง ประวัติผลการเทรดของเรา (Myfxbook) เป็นเพียงผลการเทรดย้อนหลัง จึงไม่สามารถการันตีผลการเทรดในอนาคตได้ ดังนั้นผู้ลงทุนต้องพิจารณาความเสี่ยงและยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง เราไม่มีนโยบายในการระดุมทุน และไม่สนับสนุนการระดุมทุน