FxPro เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงในระดับสากล ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร แม้จะเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมสูงในระดับโลกและครองรางวัลมาแล้วกว่า 100 รางวัล แต่สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย FxPro ยังคงมีประเด็นที่ต้องพิจารณาทั้งในด้านต้นทุนการเทรดและความคุ้มครองทางกฎหมายด้วย
ความน่าเชื่อถือและใบอนุญาต (FCA, CySEC)
FxPro ถือเป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงมากในแง่ของใบอนุญาต โดยได้รับ License เกรด A จากหน่วยงานกำกับดูแลที่เข้มงวดที่สุดในโลกอย่าง FCA (สหราชอาณาจักร) และ CySEC (ไซปรัส)
อย่างไรก็ตาม สำหรับ เทรดเดอร์ชาวไทย บัญชีจะถูกเปิดภายใต้ใบอนุญาตของ SCB Bahamas หรือ FSA Seychelles ซึ่งถือเป็น License เกรด C ที่มีมาตรฐานการกำกับดูแลต่ำกว่า และความคุ้มครองลูกค้าอาจไม่เข้มงวดเท่ากับในยุโรป นอกจากนี้ยังมีคำเตือนจาก FCA ให้ระวังบริษัทโคลนที่แอบอ้างชื่อ FxPro เพื่อหลอกลวงนักลงทุนอีกด้วย
ใบอนุญาตแบ่งออกเป็นระดับ Rank ต่างๆ ดังนี้:
1.FCA (Financial Conduct Authority) – สหราชอาณาจักร (Rank A): ถือเป็นใบอนุญาตที่มีมาตรฐานสูงสุดในโลก ดำเนินการภายใต้ชื่อ FXPRO UK Limited (หมายเลขทะเบียน 509956) มีที่อยู่ในกรุงลอนดอนอย่างชัดเจน
2.CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission) – ไซปรัส (Rank A): ใบอนุญาตหลักสำหรับการดำเนินงานในยุโรป ภายใต้ชื่อ FXPRO Financial Services Ltd (หมายเลขทะเบียน 078/07) ซึ่งมีความเข้มงวดในการแยกเงินทุนลูกค้าออกจากเงินทุนบริษัท
3.FSCA (Financial Sector Conduct Authority) – แอฟริกาใต้ (Rank B): ใบอนุญาตที่รองรับการบริการในภูมิภาคแอฟริกา ดำเนินการภายใต้ชื่อจดทะเบียนเดียวกันกับฝั่งไซปรัส
4.SCB (Securities Commission of The Bahamas) – บาฮามาส (Rank C): นี่คือใบอนุญาตหลักที่ดูแลลูกค้าในภูมิภาคเอเชียรวมถึง เทรดเดอร์ไทย แม้จะเป็นใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถูกจัดอยู่ใน Rank C เนื่องจากมีมาตรฐานการกำกับดูแลที่ผ่อนปรนกว่าฝั่งยุโรป
5.FSA (Financial Services Authority of Seychelles) – เซเชลส์ (Rank C): อีกหนึ่งใบอนุญาตในเขตพื้นที่นอกชายฝั่ง (Offshore) ที่ใช้รองรับลูกค้าในบางพื้นที่
ข้อควรระวังสำหรับคนไทย: แม้ FxPro จะมี License เกรด A อย่าง FCA และ CySEC แต่เนื่องจากกฎระเบียบด้านเลเวอเรจในยุโรปมีความเข้มงวดมาก (จำกัดที่ 1:30) เทรดเดอร์ไทยส่วนใหญ่จึงถูกจัดให้อยู่ภายใต้การดูแลของ SCB Bahamas หรือ FSA Seychelles เพื่อให้สามารถใช้งานเลเวอเรจที่สูงขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีคำเตือนจาก FCA ให้ระวังบริษัทโคลนที่แอบอ้างชื่อ FxPro เพื่อหลอกลวงนักลงทุน ซึ่งเป็นจุดที่เทรดเดอร์ต้องตรวจสอบลิงก์เว็บไซต์ให้ดีก่อนสมัคร
ประเภทบัญชีและต้นทุนการเทรด: Standard, Raw และ Elite
FxPro มีประเภทบัญชีที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน โดยมีเงื่อนไขหลักที่เหมือนกันคือ Stop Out ที่ 20% และรองรับเลเวอเรจสูงสุดแบบไดนามิกถึง 1:ไม่จำกัด (เฉพาะ Forex)
• บัญชี Standard: เป็นบัญชีพื้นฐานที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่ต้องแลกมาด้วยสเปรด (Spread) ที่ค่อนข้างกว้าง โดยค่าเฉลี่ยสเปรดคู่ EURUSD อยู่ที่ประมาณ 14 จุด ซึ่งถือว่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด
บัญชี Raw: บัญชีนี้เน้นสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการสเปรดต่ำเริ่มต้นที่ 0 pip แต่จะมีค่าคอมมิชชั่นคงที่ที่ 7 USD/Lot โดยมีเงินฝากขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 500 USD
บัญชี Elite: ถือเป็นบัญชีที่ดีที่สุดของ FxPro มีเงื่อนไขสเปรดและค่าคอมมิชชั่นเหมือนบัญชี Raw ทุกประการ แต่จุดเด่นคือ มีรีเบท (Rebate) คืนให้ 1.5 USD/Lot ทำให้ต้นทุนการเทรดจริงลดลงเหลือเพียง 5.5 USD/Lot บัญชีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีทุนทรัพย์เพราะต้องฝากขั้นต่ำถึง 1,000 USD
การเปรียบเทียบต้นทุน: จากการ รีวิว FxPro พบว่าต้นทุนการเทรดสินค้าส่วนใหญ่ แพงกว่าค่าเฉลี่ย ของโบรกเกอร์อื่นๆ ในตลาดไทย เช่น ทองคำ (XAUUSD) มีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 20.46 – 33.38 USD/Lot และ Bitcoin (BTCUSD) พุ่งสูงถึง 81.41 USD/Lot เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยตลาดที่ 29.23 USD/Lot ดังนั้น FxPro จึงอาจไม่เหมาะกับสาย Scalping ที่เน้นประหยัดต้นทุนสเปรด
แพลตฟอร์มการเทรด
จุดแข็งที่สุดอย่างหนึ่งของ FxPro คือแพลตฟอร์มการเทรดที่มีให้เลือกครบครันที่สุดในวงการ ดังนี้
- MetaTrader 4 & 5: รองรับมาตรฐานสากล ทั้งบน Windows, Mac, Android และ iOS
- cTrader: FxPro เป็นโบรกเกอร์แรกในโลกที่นำ cTrader มาให้บริการตั้งแต่ปี 2011 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความใสสะอาดของราคาและการส่งคำสั่งที่รวดเร็ว
- FxPro Edge (WebTrader): แพลตฟอร์มบนหน้าเว็บที่ FxPro พัฒนาขึ้นเอง มีเครื่องมือ
วิเคราะห์และอินดิเคเตอร์ให้เลือกใช้มากมาย พร้อมฟังก์ชันวิเคราะห์ประสิทธิภาพพอร์ตการลงทุน (Account Performance) - FxPro Direct (Mobile App): แอปพลิเคชันที่ใช้งานง่ายมาก โดยเฉพาะกราฟที่ดึงข้อมูลมาจาก TradingView ทำให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์กราฟได้เหมือนมือโปรผ่านมือถือ
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของแพลตฟอร์มที่ FxPro พัฒนาเองคือ ไม่สามารถใช้งาน Robot Trading (EA) หรือ Custom Indicator ภายนอกได้ หากต้องการใช้ระบบอัตโนมัติยังคงแนะนำให้ใช้ MT4/MT5 เป็นหลัก
สรุปข้อดี-ข้อเสีย จากประสบการณ์ผู้ใช้งานจริง
ข้อดี
- ความน่าเชื่อถือสูงมาก เปิดดำเนินการมานานตั้งแต่ปี 2006 และมีสำนักงานใหญ่ในอังกฤษชัดเจน
- ถือครอง License ระดับโลกมากมาย (FCA, CySEC, FSCA)
- ถอนเงินไวมาก (เฉลี่ย 7 นาที) และเรทฝากถอนค่อนข้างถูก
- มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมหาศาล โดยเฉพาะหุ้นที่มีมากกว่า 1,800 ตัว
- แพลตฟอร์มหลากหลายและเสถียร ความเร็วในการส่งคำสั่งเฉลี่ย 0.24 วินาที
ข้อเสีย
- ต้นทุนการเทรด (สเปรด + คอมมิชชั่น) แพงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดในเกือบทุกสินทรัพย์
- ช่วงข่าวสเปรดถ่างกว้างและใช้เวลากลับคืนสู่ภาวะปกตินานกว่า 17 นาที
- เงินฝากขั้นต่ำ 2,000 บาท อาจดูสูงสำหรับมือใหม่
- ไม่มีระบบ Copy Trade ของตนเอง (ต้องใช้ผ่าน cTrader)
- มีประเด็นเรื่องรีวิวในบางเว็บไซต์ (FPA) ที่ไม่ค่อยดีนัก และมีข่าวเรื่องการสร้างรีวิวปลอมโดยพนักงาน
สรุป FxPro เหมาะกับใคร?
FxPro เหมาะกับใคร? FxPro เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ เทรดเดอร์ระดับมืออาชีพ (Pro Trader) หรือสายเทรดมือ (Manual) ที่ต้องการความมั่นใจในความปลอดภัยของเงินทุนและต้องการเทรดในโบรกเกอร์ที่มีความโปร่งใสสูง แต่ถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่มีงบน้อย หรือเป็นสายเทรดสั้น (Scalping) ที่ซีเรียสเรื่องสเปรด FxPro อาจยังไม่ใช่ตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดในแง่ของต้นทุน
เปรียบเทียบความเสถียร: FxPro เปรียบเสมือนธนาคารขนาดใหญ่ที่มีความปลอดภัยสูงและบริการดีเยี่ยม แต่อาจมีค่าธรรมเนียมบางอย่างที่สูงกว่าสถาบันการเงินรายย่อยทั่วไป
แนะนำให้อ่าน
- วิธีเปิดบัญชี FxPro
- วิธีถอนเงิน FxPro
- วิธีฝากเงิน FxPro
บทความที่เกี่ยวข้อง
ผู้เขียน / Admin
Programmer web master
Win โปรแกรมเมอร์ผู้รักในการเทรด Forex เป็นชีวิตจิตใจ เข้าสู่วงการตลาด Forex ตั้งแต่ปี 2555 แสวงหาความสำเร็จ เพื่อเป็นผู้มีอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง จากแหล่งรายได้แบบ Passive income โดยการนำความรู้การเขียนโปรแกรมมาประยุกต์พัฒนา EA สร้างฟาร์ม EA Forex ขนาดใหญ่ ในการเทรดทำกำไรในตลาด Forex ให้มีรายได้ที่มั่นคงแบบมั่งคั่งและยั่งยืน....
” การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน “
ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง ประวัติผลการเทรดของเรา (Myfxbook) เป็นเพียงผลการเทรดย้อนหลัง จึงไม่สามารถการันตีผลการเทรดในอนาคตได้ ดังนั้นผู้ลงทุนต้องพิจารณาความเสี่ยงและยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง เราไม่มีนโยบายในการระดุมทุน และไม่สนับสนุนการระดุมทุน

