การอ่านโครงสร้างราคาแบบ BOS และ CHOCH

การซื้อขายและการลงทุนที่ประสบความสำเร็จในตลาดการเงินจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับโครงสร้างราคาและความสามารถในการระบุจุดเปลี่ยนที่สำคัญของตลาด เทคนิคสำคัญสองอย่างที่เทรดเดอร์ใช้ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา

และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในการเปลี่ยนแปลงของตลาดคือเทคนิค “Break of Structure” และ “Change of Character” ในบทความนี้ เราจะสำรวจเทคนิคเหล่านี้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญในการอ่านโครงสร้างราคาอย่างมีประสิทธิภาพ

โครงสร้างราคาหมายถึงวิธีที่ราคาเคลื่อนไหวและสร้างรูปแบบที่เป็นที่รู้จักบนกราฟแผนภูมิ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการระบุแนวโน้ม ระดับแนวรับและแนวต้าน และตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ ด้วยการวิเคราะห์โครงสร้างราคา เทรดเดอร์สามารถรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอารมณ์ของตลาดและทำการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด

เทคนิคการทำลายโครงสร้างเกี่ยวข้องกับการระบุระดับราคาหรือเส้นแนวโน้มที่มีนัยสำคัญ ซึ่งเมื่อเกิดการทำลายโครงสร้างไปแล้ว จะบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในทิศทางตลาด ช่วยให้เทรดเดอร์มองเห็นโอกาสการทะลุหรือหลุดต่อไป ทำความเข้าใจง่ายๆคือ Break of Structure (Bos) ทำหน้าที่ทำลายโครงสร้างเพื่อบ่งบอกว่าเทรนกำลังไปต่อในทิศทางเดิม Follows Trend

เส้นแนวโน้มถูกวาดเพื่อเชื่อมต่อจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในแนวโน้มขาขึ้นหรือจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าติดต่อกันในแนวโน้มขาลง เมื่อเส้นแนวโน้มเปลี่ยนแปลง จะแสดงการกลับตัวของแนวโน้มที่เป็นไปได้หรือการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่

แนวรับและแนวต้านเป็นพื้นที่ที่ราคาเคยต่อสู้เพื่อก้าวไปไกลกว่านั้น เมื่อระดับเหล่านี้ถูกทำลาย มันบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของการเปลี่ยนแปลงของตลาด การทะลุแนวรับบ่งชี้ว่าอาจมีการเคลื่อนไหวลง ในขณะที่การทะลุแนวต้านบ่งชี้ว่าอาจมีการเคลื่อนไหวขึ้น

เป็นการเปลี่ยนแปลงของเทคนิคเกี่ยวข้องกับการระบุการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของตลาดหรือความรู้สึกที่เบี่ยงเบนไปจากรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาก่อนหน้านี้ ช่วยให้เทรดเดอร์ปรับตัวเข้ากับสภาวะตลาดที่กำลังพัฒนาและปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกันได้ กล่าวคือ Change of Character Technique (Choch) คือ การทำลายโครงสร้างเพื่อบ่งบอกว่า กำลังเปลี่ยนแปลงทิศทางไปทางตรงกันข้ามหรือการกลับตัวของราคานั่นเอง

ความผันผวนหมายถึงขนาดของความผันผวนของราคา ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างกะทันหันสามารถบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลาด ความผันผวนที่สูงขึ้นอาจบ่งบอกถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นหรือการเริ่มต้นของช่วงแนวโน้ม ในขณะที่ความผันผวนที่ลดลงอาจบ่งบอกถึงการรวมฐานหรือการขาดความสนใจของตลาด

ปริมาณแสดงถึงจำนวนหุ้นหรือสัญญาที่ซื้อขาย ปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันมักบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของการมีส่วนร่วมในตลาด และสามารถส่งสัญญาณถึงแรงกดดันในการซื้อหรือขายที่มีนัยสำคัญ ในทางกลับกัน ปริมาณที่ลดลงอาจบ่งบอกถึงการสูญเสียความสนใจหรือขาดความเชื่อมั่นในตลาด

ความแตกต่างเกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์เคลื่อนไหวในทิศทางที่แตกต่างจากตัวบ่งชี้ทางเทคนิค ตัวอย่างเช่น หากราคากำลังทำจุดสูงสุดที่สูงขึ้นในขณะที่ตัวบ่งชี้ออสซิลเลเตอร์กำลังทำจุดสูงสุดที่ต่ำกว่า แสดงว่าราคามีโอกาสกลับตัว

เมื่อตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงในลักษณะของตลาด เทรดเดอร์สามารถปรับกลยุทธ์ของตนให้เข้ากับสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไปได้ เช่น การขยายระดับการหยุดการขาดทุน SL การปรับขนาดตำแหน่ง หรือการพิจารณาแนวทางการซื้อขายเพิ่มเติม

การอ่านโครงสร้างราคาเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนในตลาดการเงิน การทำลายโครงสร้างและการเปลี่ยนแปลงของเทคนิคราคาจะให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับจุดเปลี่ยนของตลาดที่อาจเกิดขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของความเชื่อมั่นในตลาด เมื่อเชี่ยวชาญเทคนิคเหล่านี้ เทรดเดอร์สามารถปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจ ระบุโอกาสในการซื้อขายที่มีความเป็นไปได้สูง และจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องรวมเทคนิคเหล่านี้เข้ากับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ

” การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน “

ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง ประวัติผลการเทรดของเรา (Myfxbook) เป็นเพียงผลการเทรดย้อนหลัง จึงไม่สามารถการันตีผลการเทรดในอนาคตได้ ดังนั้นผู้ลงทุนต้องพิจารณาความเสี่ยงและยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง เราไม่มีนโยบายในการระดุมทุน และไม่สนับสนุนการระดุมทุน