การเข้าซื้อขายฟอเร็กซ์ด้วยกลยุทธ์ Breakouts

การเทรดฟอเร็กซ์แบบฝ่าวงล้อม (Breakouts) เป็นกลยุทธ์ยอดนิยมในหมู่เทรดเดอร์ที่ต้องการกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่มีนัยสำคัญหลังจากช่วงเวลาของการ sideway การทะลุเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอารมณ์ตลาด ในบทความนี้

เราจะสำรวจกลยุทธ์การฝ่าวงล้อม (Breakouts) แบบต่างๆ ให้ตัวอย่างในโลกแห่งความเป็นจริง และสรุปองค์ประกอบหลัก ด้วยการทำความเข้าใจหลักการที่อยู่เบื้องหลังการเทรดแบบฝ่าวงล้อม (Breakouts) และใช้กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ เทรดเดอร์สามารถปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดฟอเร็กซ์ได้

โดยทั่วไปแล้วการทะลุจะเกิดขึ้นหลังจากระยะเวลาหนึ่งของการ sideway ซึ่งช่วงราคาแคบลงและความผันผวนลดลง ในฐานะนักเทรด เรามองหาการทะลุเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่มีนัยสำคัญ การฝ่าวงล้อม (Breakouts)

เหนือแนวต้านบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่เป็นขาขึ้น ในขณะที่การฝ่าวงล้อม (Breakouts) ที่ต่ำกว่าแนวรับบ่งชี้ถึงความรู้สึกที่เป็นขาลง ในการยืนยันการฝ่าวงล้อม (Breakouts) เทรดเดอร์มักจะมองหาปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมันบ่งชี้ถึงการมีส่วนร่วมของตลาดที่กว้างขึ้นและมีความแม่นยำยิ่งของในรูปแบบของการฝ่าวงล้อม (Breakouts)

กลยุทธ์การฝ่าวงล้อม (Breakouts) แบบคลาสสิกเกี่ยวข้องกับการระบุแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ และเข้าสู่การซื้อขายเมื่อราคาทะลุผ่านระดับเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น พิจารณาคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายในช่วงระหว่าง $1.2000 ถึง $1.2200 เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์การฝ่าวงล้อม (Breakouts) แบบคลาสสิกจะวางคำสั่งซื้อหากราคาเพิ่มขึ้นเหนือ $1.2200 หรือคำสั่งขายหากราคาต่ำกว่า $1.2000 คำสั่งหยุดการขาดทุนจะถูกวางไว้ใต้ระดับการฝ่าวงล้อม (Breakouts) เพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นหากการฝ่าวงล้อม (Breakouts) ล้มเหลว

กลยุทธ์การ Retest ของการฝ่าวงล้อม (Breakouts) เป็นการรวมหลักการการฝ่าวงล้อม (Breakouts) เข้ากับการ Retest ไปสู่ระดับที่ทะลุราคา หลังจากการทะลุเกิดขึ้น ราคาอาจกลับมาทดสอบระดับการฝ่าวงล้อม (Breakouts) ที่ราคาเดิมอีกครั้งก่อนที่จะกลับสู่แนวโน้มหรือเทรน

เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์นี้รอให้การ Retest สิ้นสุดลงและเข้าออเดอร์ในทิศทางของการฝ่าวงล้อม (Breakouts) วิธีการนี้เปิดโอกาสให้ได้ราคาที่ดีขึ้นโดยมีความเสี่ยงลดลง ตัวอย่างเช่น หากคู่สกุลเงินทะลุเหนือระดับแนวต้านที่ $1.2500 และดึงกลับเพื่อทดสอบอีกครั้ง เทรดเดอร์อาจพิจารณาซื้อใกล้ระดับการฝ่าวงล้อม (Breakouts)โดยมีจุดหยุดการขาดทุนต่ำกว่าจุดต่ำสุดที่ Retest

กลยุทธ์การฝ่าวงล้อม (Breakouts) ของความผันผวนมุ่งเน้นไปที่การฝ่าวงล้อม (Breakouts) ที่เกิดขึ้นพร้อมกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้น เทรดเดอร์ตรวจสอบตัวบ่งชี้เช่น Bollinger Bands, Average True Range (ATR) หรือ Donchian Channel เพื่อระบุช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูงขึ้น

เมื่อราคาทะลุเหนือหรือต่ำกว่าระดับสำคัญในช่วงที่มีความผันผวนสูง มันบ่งบอกถึงโมเมนตัมที่แข็งแกร่งขึ้นและความต่อเนื่องของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์นี้จะเข้าสู่การซื้อขายเมื่อราคาทะลุกรอบด้านบนหรือด้านล่างของแถบด้านล่าง รวมกับคำยืนยันจากตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ

การเทรดฟอเร็กซ์แบบฝ่าวงล้อม (Breakouts) เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์ได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาที่มีนัยสำคัญหลังจากช่วงเวลาของการ sideway ด้วยการทำความเข้าใจกลยุทธ์การฝ่าวงล้อม (Breakouts) ที่แตกต่างกันและหลักการพื้นฐาน เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดและเพิ่มผลกำไร กลยุทธ์การฝ่าวงล้อม (Breakouts) แบบคลาสสิกมุ่งเน้นไปที่การระบุแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ

ในขณะที่กลยุทธ์การฝ่าวงล้อม (Breakouts) ช่วยให้สามารถเข้าสู่ราคาที่ดีขึ้นโดยมีความเสี่ยงลดลง กลยุทธ์การฝ่าวงล้อม (Breakouts) จากความผันผวนเป็นการรวมการฝ่าวงล้อม (Breakouts) กับช่วงที่มีความผันผวนของตลาดสูงขึ้นเพื่อแนวโน้มที่แข็งแกร่งขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการฝ่าวงล้อม (Breakouts) อาจล้มเหลวในบางครั้ง

ดังนั้นเครื่องมือการจัดการความเสี่ยง เช่น คำสั่งหยุดการขาดทุน SL จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น เช่นเดียวกับกลยุทธ์การเทรดใดๆ การฝึกฝน ระเบียบวินัย และการประเมินผลอย่างต่อเนื่องมีความสำคัญต่อการเรียนรู้การฝ่าวงล้อม (Breakouts) ของฟอเร็กซ์และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในตลาดฟอเร็กซ์แบบไดนามิก

” การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน “

ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง ประวัติผลการเทรดของเรา (Myfxbook) เป็นเพียงผลการเทรดย้อนหลัง จึงไม่สามารถการันตีผลการเทรดในอนาคตได้ ดังนั้นผู้ลงทุนต้องพิจารณาความเสี่ยงและยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง เราไม่มีนโยบายในการระดุมทุน และไม่สนับสนุนการระดุมทุน